ทุ่งดอกกระเจียว @ ชัยภูมิ

มีเพื่อน ๆ หลายคนโพสรูปดอกกระเจียวกันสวย ๆ ทั้งนั้นเลย ก้อยไปมาเมื่อต้นเดือนกรกฏาคมค่ะ อากาศกำลังดี และดอกกระเจียวก็บานสวยทั้งที่ไทรทองและป่าหินงามค่ะ รูปแรกเป็นทุ่งดอกกระเจียวที่ไทรทองค่ะ ^^

ก้อยใช้เวลาเดินเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติไทรทองประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ ไม่คิดเหมือนกันว่าจะใช้เวลามากขนาดนี้ เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย สุดท้ายต้องรีบกลับเพราะหิวมาก อิอิ สำหรับใครที่ไปที่อุทยานเป็นครั้งแรก ขอแนะนำให้เตรียมน้ำดื่มติดไปด้วยนะคะ จะพกขนมไปด้วยก็ดีค่ะ ระยะทางเดินไปกลับประมาณ 4 กม. ไม่นับรวมที่เราเดินไปมาเพื่อเก็บภาพให้หนำใจอีกล่ะ ก้อยว่าก้อยเดินสัก 5 – 6 กม. มังคะ เพราะเดินวกกลับไปดูทุ่งกระเจียวสีขาวอีกล่ะ และยังกลับมาถ่ายรูปที่ผาหำหดอีกรอบ อิอิ

ทุ่งดอกกระเจียวที่ไทรทองเป็นทุ่งที่เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติ เพราะต้องดั้นด้นเดินเท้าเพื่อไปชมความงาม ซึ่งต่างจากที่ป่าหินงามที่มีรถพาไปถึงดงดอกไม้กันเลยทีเดียว

ก้อยชอบธรรมชาติที่ไทรทองมากกว่าที่ป่าหินงามค่ะ รูปนี้ก็เป็นรูปทุ่งกระเจียวที่ไทรทองเช่นกันค่ะ สำหรับคนที่สงสัยว่าทำไมต้องดั้นด้นกันไปดูเจ้าดอกกระเจียว…ไม่เข้าใจจริง ๆ … ในส่วนตัวของก้อยเองนั้น หลงรักทุ่งดอกกระเจียวมานานมากแล้ว เพราะอยากสัมผัสทุ่งดอกไม้ท่ามกลางไอหมอก เหมือนภาพถ่ายของหลาย ๆ คน ก้อยอยู่กับแสงแดดเจิดจ้าของชายทะเลมานาน พอรู้ว่าที่ไหนมีไอหมอกก็เฝ้ารอจังหวะเดินทางค่ะ อิอิ

อยากจะบอกว่าการเดินทางไปชัยภูมิครั้งนี้ก้อยประทับใจกับบรรยากาศของป่าเขามาก ตลอดทางที่เดินไปแต่ละทุ่งที่ไทรทองรายล้อมไปด้วยสีเขียว และอากาศที่แสนสดชื่น ถ้าก้อยไม่หิวข้าวและน้ำ คงจะใช้เวลามากกว่านี้แน่นอนค่ะ ตอนที่รู้ตัวว่าหิวมากก็ตอนที่กลับมาถึงบรืเวณลานกางเต้นท์ และสั่งข้าวมากินนั่นแหละค่ะ หิวจนมือสั่นเลย อิอิ

ถ้าจะเที่ยวชัยภูมิให้หนำใจก้อยว่าควรจะมีเวลาสักอาทิตย์นึงนะ แค่ 2 วันก้อยเหนื่อยมากค่ะ เพราะแต่ละจุดอยู่ไกลกันเหลือเกิน และเวลาที่มีน้อยทำให้ไม่มีเวลาชื่นชมความงามอย่างที่ต้องการ ดีนะที่เอ๋เตือนมาก่อนว่าแต่ละที่ไกลกันเหลือเกิน ทำให้ก้อยเผื่อเวลาไว้เรียบร้อย แต่ก็ยังเหนื่อยนะ เห็นใจคนขับรถจริง ๆ เลยค่ะ อิอิ

2 รูปล่างเป็นทุ่งกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามค่ะ ทุ่งกระเจียวที่นี่สวยงามด้วยลักษณะของทุ่งที่เป็นป่าโปร่งค่ะ และเป็นเนินเขาด้วย ทางเดินก็ทำไว้ให้เดินได้ง่าย และไม่เหนื่อยค่ะ คนละเรื่องกันเลยถ้าเทียบกับไทรทอง แต่ความงามสูสีค่ะ ถ้ามากับ สว. ก้อยเลือกป่าหินงามค่ะ สะดวกดี

มอหินขาว @ ชัยภูมิ

“มอหินขาว” เป็นอีกหนึ่งหมุด ที่ก้อยวางไว้ว่าจะหาโอกาสไปให้ได้สักครั้ง และครั้งนี้โอกาสก็มาถึงโดยไม่คาดหวังมาก่อน แต่เมื่อมีโอกาสก็ต้องรีบตะครุบไว้ก่อนค่ะ ได้มากหรือน้อยค่อยว่ากัน อิอิ เดิมวางแผนว่าจะไปภูทับเบิกด้วยนะ เพราะถูกเลื่อนมาหลายรอบแล้วเจ้าภูทับเบิกนี่อ่ะ และครั้งนี้ก็ต้องถูกเลื่อนไปอีกเช่นเคย…เฮ้อ

มอหินขาว เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ถือว่ามีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียวงาม ซึ่งตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บริเวณบ้านวังคำแคน หมู่ 9 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิเดิมพื้นที่ แถวนี้ เป็นป่า ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ที่ไร่ มันสำปะหลัง (ในสมัยนั้น) แต่จากเสียงบอกเล่า มีคนเคยเห็นว่าแปลกประหลาดมาก ก็คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน ที่ในทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสง สีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น เลยเรียกที่นี่ว่า มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย“เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาว ส่วนใหญ่ เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง หากมาท่องเที่ยวในฤดูฝน นอกจากนักท่องเที่ยว จะได้ พบเห็น ประติมา้กรรมทางธรรมชาติที่สวยงามของเสาหินแล้ว ยังได้พบดอกไม้ป่าที่บ้านสะพรั่งอยู่ทั่วมอหินขาวดูแล้ว เป็นภาพที่ สวยงามและน่าชมนัก

มอหินขาว มีกลุ่มหินอยู่หลายแห่งด้วยกัน เมื่อเรามาถึงมอหินขาว  ก็จะถึง กลุ่มหินชุดแรก คือ “เสาหิน 5 ต้น” เป็นหินที่มีความสูง ประมาณ 12 เมตร จำนวนหนึ่งใน 5 มีต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ขนาด 22 คนโอบ เสาหิน 5 ต้นนี้นับเป็น เสาหินที่เด่นที่สุด และเป็น ไฮไลต์ของการมาเที่ยวมอหินขาว

มาถึงก็ไม่ผิดหวังค่ะกับสิ่งที่ธรรมชาติสรรสร้าง แต่เซ็งตรงที่ฟ้าไม่เป็นใจนี่แหละค่ะ นั่งรอฟ้าอยู่พักนึงแล้วล่ะ แต่ไม่ได้อย่างใจหวัง ก็จำยอมถ่ายมาอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ ก็ดั้นด้นมาจนถึงที่แล้วนี่คะ ที่นี่ไม่เงียบเหงาเลยค่ะ มีทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้ แวะเวียนเข้า-ออกตลอดเวลาเลยค่ะ ทุกคนทำเหมือนกันคือถ่ายรูป อิอิ

ก้อยเองก็ถ่ายมาเกือบจะทุกมุมค่ะ กันลืมไงคะ

ใช้เวลากับมอหินขาวที่นี่เกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะออกเดินทางไปต่อ เพราะอ่านคู่มือมาแล้วว่ามีจุดอื่น ๆ ให้ชมอีก และก็ไปอีกไม่ไกลค่ะ ประมาณ 500 เมตรเอง

 

 

สวนรุกขชาติน้ำผุดทัพลาว

หลายคนอาจจะงง ๆ กับการเลือกเส้นทางของก้อยนะ จากสกลนครก้อยก็เข้าขอนแก่น และรุ่งเช้าก็ออกเดินทางต่อ เพราะจุดหมายแรกที่วางไว้คือคืนนี้เราจะค้างคืนที่น้ำหนาว เพชรบูรณ์ค่ะ จองที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เวลายังมีเหลือก็เลยแวะเที่ยวรายทาง โดยทุกคนเห็นตรงกันที่จะไปเที่ยวเขื่อนจุฬาภรณ์ หรือเขื่อนน้ำพรม จังหวัดชัยภูมิค่ะ

แต่ก่อนจะถึงเขื่อนฯเป้าหมาย เราก็เจอป้ายน่าสนใจ … สวนรุกขชาติน้ำผุดทัพลาว … บรรยากาศก็ดูร่มรื่นมาก ๆ ก็เลยตัดสินใจแวะเข้าไปก่อน…

สถานที่ยังไม่ได้รับการปรับปรุงมากนัก ยังคงอยู่ในสภาพเดิม ๆ ของต้นน้ำ เห็นน้ำผุด ปุด ๆ ๆ ๆ ตลอดเวลา น้ำเย็นชื่นใจค่ะ เป็นสถานที่พักผ่อนที่อากาศบริสุทธิ์ สดชื่น รอบ ๆ มีแต่ต้นไม้เขียวชอุ่ม … แวะเข้ามาเที่ยวชมได้นะคะ ผู้คนที่นี่ก็อัธยาศัยดี มีของมาวางขายนักท่องเที่ยวด้วยนะคะ